สมาคมเหล็กเวียดนาม เปิดเผย คาดการณ์การผลิตเหล็กปี 2018 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 20-22

นาย Nguyễn Văn Sưa รองประธานสมาคมฯ กล่าวในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่าน เกี่ยวกับโครงการผลิตเหล็กที่เริ่มดำเนินการในปีนี้ ได้แก่ โรงผลิตเหล็กของ Hòa Phát Group ซึ่งตั้งอยู่ในตอนกลางของจังหวัด Quảng Ngãi กำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี โรงผลิตเหล็กของ Formosa ในเมือง Hà Tĩnh กำลังการผลิต 3 ล้านตันต่อปี โรงผลิตเหล็กของ Hoa Sen ในเมือง Bình Định กำลังการผลิต 350,000 ล้านตันต่อปี และสามโรงงานผลิตเหล็กของ Pomina, Việt-Ý และ Tung Hô กำลังการผลิตรวม 1.8 ล้านตันต่อปี โดยสมาคมฯ กล่าวว่า โรงงานเหล็กแห่งใหม่น่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กให้อุตสาหกรรมเหล็กอย่างมาก โดยเฉพาะเหล็กหล่อคาดว่ายอดการผลิตน่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 อยู่ที่ 7,500 ตัน ส่วน steel ingot และผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปน่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 และร้อยละ 19 อยู่ที่ 14,000 ตัน และ 26,230 ตัน ตามลำดับ

นาย Sưa กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมฯ จะมีส่วนร่วมในการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล็กและอุปสรรคทางเทคนิคตลอดจนส่งเสริมการใช้มาตรการทางการค้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศท่ามกลางการแข่งขันระหว่างประเทศที่รุนแรง

นอกจากนี้สมาคมฯ จะติดตามการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผู้ผลิตในประเทศสามารถผลิตได้อย่างใกล้ชิด และนำเสนอมาตรการเพื่อส่งเสริมการผลิตในประเทศ

ด้านนาย Nghiêm Xuân Đa ประธานสมาคมฯ กล่าวว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเหล็กเวียดนนามทั้งกำลังการผลิต ยอดการผลิต และอุปสงค์ขยายตัวอย่างรวดเร็วและในปี 2018 คาดว่าตลาดเหล็กเวียดนามจะยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า รัฐบาลควรเพิ่มนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือระหว่างประเทศและกระตุ้นความต้องการบริโภคเหล็กโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมปลายทาง เช่น การก่อสร้างอาคาร เรือ และ เครื่องจักรกล เป็นต้น

สถิติของสมาคมฯ ระบุว่ายอดผลิตเหล็กในปี 2017 ที่ผ่านมามากกว่า 22 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ 23.5 โดยมียอดขายในประเทศ 19 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน

อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนามมีรายได้จากการส่งออกเหล็กเพิ่มขึ้นกว่า 3.64 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 จากปี 2016

ด้านการนำเข้า ประเทศเวียดนามมีการนำเข้าเหล็กเกือบ 20 ล้านตันในปี 2016 คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงร้อยละ 14.2 ในเชิงปริมาณ แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ในเชิงมูลค่า
แหล่งที่มา : Viet Nam News