ยอดการผลิตเหล็กดิบของโลกเดือนพฤษภาคม 2017 ขยายตัว 2.0%

20161011-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81

สมาคมเหล็กโลก เผย สถิติยอดการผลิตเหล็กดิบของ 67 ประเทศทั่วโลกเดือนพฤษภาคม 2017 อยู่ที่ 143.3 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการผลิตเหล็กดิบรายวันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.62 ล้านตัน ลดลงจาก 4.74 ล้านตันในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กดิบของโลกร่วงลงมาที่ระดับ 71.8% จาก 73.6%

ยอดการผลิตเหล็กดิบสะสมห้าเดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 695 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 664 ล้านตัน หรือ 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ยอดการผลิตเหล็กดิบภูมิภาคเอเชียเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 2.4% y-o-y อยู่ที่ 99.9 ล้านตัน โดยทุกประเทศมียอดการผลิตเหล็กดิบเพิ่มขึ้นทั้งหมดยกเว้นประเทศเกาหลีใต้ ยอดการผลิตเหล็กดิบของจีนเพิ่มขึ้น 1.8% อินเดียเพิ่มขึ้น 6.4% และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.1%

ยอดการผลิตเหล็กดิบภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 2.0% y-o-y ด้วยแรงหนุนจากยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศฝรั่งเศส โปรแลนด์ ออสเตรีย และสโลวาเกีย ขณะที่ยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศเยอรมัน อิตาลี สเปน และสหราชอาณาจักรหดตัว

ยอดการผลิตเหล็กดิบของ CIS หดตัว 7.1% y-o-y ยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศยูเครนหดตัว 25.5% ส่วนยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศรัสเซียและเบลารุสหดตัวลงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม

ยอดการผลิตเหล็กดิบภูมิภาคอเมริกาเหนือเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 9.76 ล้านตัน โดยยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.3% และ 0.2% ตามลำดับ ขณะที่ยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศเม็กซิโกหดตัว 1.0% ภูมิภาคอเมริกาใต้ยอดการผลิตเหล็กดิบเพิ่มขึ้น 10.2% อยู่ที่ 3.7 ล้านตัน โดยยอดผลิตเหล็กดิบของประเทศบราซิลเพิ่มขึ้น 13.2%

ส่วนยอดการผลิตเหล็กดิบของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2017
Cr : World Steel Association